การขอพระราชทานชื่อสกุล มีหลักเกณฑ์ ดังนี้
ผู้ขอทำหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการ เพื่อให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา
ขอพระราชทานชื่อสกุลใหม่ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ดังต่อไปนี้
คุณสมบัติ
ผู้ที่จะขอพระราชทานชื่อสกุล จักต้องมีคุณสมบัติอยู่ในหลักเกณฑ์ ดังนี้
มีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์
มีฐานะเป็นหัวหน้าครอบครัว
ชื่อสกุลที่ใช้อยู่มิได้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ หรือผู้รับบุตรบุญธรรมตามกฎหมาย
ชื่อสกุลที่ใช้อยู่เป็นชื่อสกุลที่เปลี่ยนจากชื่อสกุลต่างด้าวมาเป็นเวลาไม่เกิน 5 ปี
หากเป็นคนต่างด้าว ต้องได้รับการแปลงสัญชาติเป็นไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี
ไม่เคยต้องโทษจำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
วิธีดำเนิการ
1. เอกสารประกอบการพิจารณา (ต้นฉบับพร้อมสำเนา)
1.1 ผู้ประสงค์จะขอพระราชทานชื่อสกุล จะต้องมอบเอกสารต่างๆ ต่อไปนี้แก่เจ้าหน้าที่
- ประวัติผู้ขอพระมหากรุณาโดยละเอียด นับสืบแต่ ปู่ ย่า ตายาย เป็นต้นมา
จนถึงบิดา มารดา น้อง ภริยา และบุตร พร้อมข้อมูลอาชีพและการศึกษา
- เหตุผลการขอพระราชทานชื่อสกุล
- รายชื่อผู้ที่จะขอใช้ชื่อสกุลร่วม
1.2 บัตรประจำตัวของผู้ขอพระมหากรุณา
1.3 ทะเบียนบ้าน
1.4 ทะเบียนการค้า หรือหลักฐานการประกอบอาชีพ
1.5 หลักฐานการแปลงสัญชาติ
1.6 เอกสารประกอบเรื่องตามที่แจ้งในประวัติ เช่น การร่วมกิจกรรมเพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์
หรืองานการกุศล เป็นต้น
2. เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเอกสาร และเห็นว่าถูกต้องครบถ้วนแล้ว
ให้คืนเอกสารต้นฉบับแก่ผู้ขอพระมหากรุณา คงใช้แต่สำเนาเอกสารแนบเรื่องเพิ่อดำเนินการ
3. ให้เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายดำเนินการสอบประวัติตามฐานะของผู้ขอพระมหากรุณา ดังนี้
3.1 ข้าราชการ
- ให้มีเอกสารหลักฐานของผู้บังคับบัญชา และหัวหน้าส่วนราชการรับรองความประพฤติ
- สอบประวัติจากส่วนราชการที่สังกัด และภูมิลำเนา
3.2 บุคคลทั่วไป
- สอบประวัติและความประพฤติจากภูมิลำเนา
- สอบประวัติอาชญากรจากกรมตำรวจ
3.3 บุคคลที่มิใช่สัญชาติไทย
- สอบประวัติและความประพฤติจากภูมิลำเนา
- สอบถามกองตรวจคนเข้าเมือง
- สอบประวัติอาชญากรจากกรมตำรวจ
3.4 กรณีผู้ขอพระมหากรุณาอ้างชื่อสกุลเดิมไม่เหมาะสม หรือไม่มีความหมาย
ให้ชี้แจงและยกเหตุผลอ้างอิงประกอบให้ชัดเจน
และให้เจ้าหน้าที่พิจารณากลั่นกรองอีกชั้นหนึ่งประกอบพระราชดำริ
หากรายใดมีคุณลักษณะไม่ครบตามหลักเกณฑ์
และมีปัญหาด้านกฎหมายหรือมีเหตุผลอื่นใดพิเศษนอกเหนือจากระเบียบนี้
ถ้าเจ้าหน้าที่เห็นสมควรจะได้รับการพิจารณา ให้ดำเนินการ ดังนี้
1. ส่งเรื่องให้กองนิติการพิจารณาเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาก่อน
ที่จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลก่อนพระกรุณาประกอบพระราชดำริ
2. นำเสนอราชเลขาธิการพิจารณาสั่งการเป็นกรณพิเศษเฉพาะราย.
ที่มา : ระเบียบสำนักราชเลขาธิการ ว่าด้วยการขอพระราชทานชื่อสกุล พ.ศ.2533
Copyright 16 november 2001 จัดทำโดย
ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอสำโรงทาบ อำเภอสำโรงทาบ
จังหวัดสุรินทร์
32170 โทร. 044
- 569213 ชนัญชิดา
ทองคำ chaida.cha@chaiyo.com |